สิทธิที่ลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์ควรรู้ ตามกฎหมายแรงงาน
การรู้ สิทธิของลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์ เป็นสิ่งสำคัญทั้งสำหรับลูกจ้างและนายจ้าง โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานต้องสอดคล้องกับกฎหมายแรงงาน เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายและสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการทำงาน ไอรวบรวมเนื้อหาครบถ้วน พร้อมอัปเดตล่าสุดไว้ให้ที่นี่แล้ว
สิทธิแรงงานหญิงที่ตั้งครรภ์ตามกฎหมาย
สิทธิพื้นฐานตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
✔️ ห้ามเลิกจ้างเพราะตั้งครรภ์
นายจ้างไม่มีสิทธิเลิกจ้างลูกจ้างหญิงเพียงเพราะตั้งครรภ์ ถือเป็นการเลือกปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย (มาตรา 43)
✔️ ขอย้ายงานชั่วคราวได้
หากงานเดิมอาจกระทบต่อสุขภาพหรือทารกในครรภ์ ลูกจ้างหญิงสามารถร้องขอย้ายงานชั่วคราวได้ โดยมีใบรับรองแพทย์ประกอบ (มาตรา 39 วรรคสอง)
✔️ ห้ามทำงานเสี่ยงอันตราย
กฎหมายห้ามลูกจ้างหญิงมีครรภ์ทำงานบางประเภท ได้แก่:
- งานกับเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์ที่สั่นสะเทือน
- งานขับเคลื่อนหรือติดยานพาหนะ
- งานยก แบก หาม หาบ ทูน ลาก หรือเข็นของเกิน 15 กก.
- งานที่ทำในเรือ
- งานอื่น ๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
✔️ ห้ามทำงานช่วงเวลาไม่เหมาะสม
ห้ามทำงานระหว่าง 22.00–06.00 น., ทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุด เว้นแต่:
- ลูกจ้างสมัครใจ
- มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ส่งผลต่อสุขภาพ
(มาตรา 39/1)
สิทธิในการลาและค่าจ้างระหว่างลาคลอด
✔️ สิทธิลาคลอด
ลูกจ้างหญิงมีสิทธิลาคลอดได้ ครรภ์ละไม่เกิน 98 วัน โดยนับรวมวันหยุดตามกฎหมาย (มาตรา 41)
✔️ ค่าจ้างระหว่างลาคลอด
- ได้รับค่าจ้างจากนายจ้างเต็มจำนวน ไม่เกิน 45 วัน
- ส่วนที่เกินจากนั้นสามารถเบิกจาก ประกันสังคม ได้ ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย ไม่เกิน 45 วัน
(รวมรับเงินสูงสุด 90 วัน)
✔️ สิทธิลาเพื่อตรวจครรภ์
สามารถลาไปตรวจครรภ์ตามความจำเป็นโดยได้รับค่าจ้าง ซึ่งจะนับรวมใน 98 วันของการลาคลอด (มาตรา 41 วรรคหนึ่ง)
สิทธิประกันสังคมเพิ่มเติม
✔️ เงินสงเคราะห์การคลอดบุตร
ประกันสังคมจ่าย 13,000 บาทต่อครั้ง ไม่จำกัดจำนวนบุตร (เงื่อนไข: ต้องส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 5 เดือนใน 15 เดือนก่อนคลอด)
✔️ เงินสงเคราะห์หยุดงานเพื่อคลอดบุตร
กรณีไม่ได้รับค่าจ้างจากนายจ้างครบ 90 วัน ประกันสังคมจะจ่าย ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย ไม่เกิน 90 วัน (เงื่อนไข: ต้องส่งเงินสมทบมาแล้วอย่างน้อย 5 เดือนใน 15 เดือนก่อนหน้า)
สิทธิของลูกจ้างชาย
ข้าราชการชาย
✔️ สิทธิลาเพื่อดูแลภรรยาหลังคลอด
ข้าราชการชายมีสิทธิลาได้ ไม่เกิน 15 วันทำการ โดยได้รับเงินเดือนปกติ (ภายใน 30 วันหลังภรรยาคลอด)
ลูกจ้างภาคเอกชนชาย
✔️ ยังไม่มีบัญญัติชัดเจนในกฎหมาย
แต่กระทรวงแรงงานมีประกาศขอความร่วมมือให้นายจ้างอนุญาตให้ลาได้ ติดต่อกันไม่เกิน 15 วัน โดยได้รับค่าจ้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับ นโยบายขององค์กร
ข้อควรรู้สำหรับนายจ้าง
✔️ ศึกษาและปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานหญิงตั้งครรภ์อย่างเคร่งครัด
✔️ ให้ความสำคัญกับสุขภาพของลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์
✔️ ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในที่ทำงาน และป้องกันปัญหาทางกฎหมาย
สรุป
ลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์มีสิทธิตามกฎหมายหลายประการที่ต้องได้รับการคุ้มครอง ทั้งการลาคลอด การได้รับค่าจ้าง การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย รวมถึงสิทธิประกันสังคมเพิ่มเติม ส่วนลูกจ้างชายแม้กฎหมายยังไม่กำหนดโดยตรง แต่ก็มีแนวโน้มที่องค์กรเอกชนจะให้ความร่วมมือมากขึ้น
หากคุณเป็นลูกจ้างหรือผู้ประกอบการ อย่าลืมศึกษาและปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เพื่อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และส่งเสริมการทำงานที่เป็นธรรมและปลอดภัยสำหรับทุกคน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น