ประกาศบัญชีวัตถุอันตราย ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2568: ปลดล็อก "สะเดา ข่า ตะไคร้หอม" ส่งเสริมสมุนไพรไทย




ประกาศบัญชีวัตถุอันตราย ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2568: ปลดล็อก "สะเดา ข่า ตะไคร้หอม" ส่งเสริมสมุนไพรไทย

📌 วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้ทันทีนับตั้งแต่วันประกาศ โดยมีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงรายชื่อวัตถุอันตรายในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นข่าวดีต่อภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมสมุนไพร และผู้บริโภคในวงกว้าง


🔎 จุดเด่นของประกาศฉบับนี้

✅ ปลดล็อก “สะเดา ข่า ตะไคร้หอม” ออกจากบัญชีวัตถุอันตราย

หนึ่งในประเด็นสำคัญของประกาศฉบับนี้ คือการ ถอดถอนพืชสมุนไพรไทย ได้แก่ สะเดา ข่า และตะไคร้หอม ออกจากบัญชีวัตถุอันตราย ซึ่งก่อนหน้านี้อาจถูกจัดให้อยู่ในบัญชีดังกล่าวจากความกังวลด้านความปลอดภัยในการใช้งาน หรือผลของสารสกัดเข้มข้นที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง

การถอดถอนนี้สะท้อนถึงการพิจารณาทบทวนตามข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และการใช้จริงในสังคม โดยเน้นให้เกิดความสมดุลระหว่าง ความปลอดภัยและการส่งเสริมสมุนไพรไทย


🏢 หน่วยงานที่รับผิดชอบการควบคุมวัตถุอันตราย

ประกาศฉบับนี้ยังคงอ้างอิงถึงหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการควบคุมวัตถุอันตรายตาม บัญชีต่างๆ ดังนี้:

🔹 บัญชี 1กรมวิชาการเกษตร
🔹 บัญชี 2กรมประมง
🔹 บัญชี 3กรมปศุสัตว์
🔹 บัญชี 4สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

โดยเฉพาะในบัญชี 4 ที่ อย. ดูแลนั้น มีการระบุสารสำคัญเพิ่มเติม ได้แก่:

  • 🧪 Hydrogen Peroxide – อยู่ในบัญชี 4.1 ลำดับที่ 223
  • 🧪 Chlorine และสารที่ปลดปล่อยคลอรีน – อยู่ในบัญชี 4.2 ลำดับที่ 22

🎯 ความสำคัญและผลกระทบที่เกิดขึ้น

🌿 ส่งเสริมการใช้สมุนไพรอย่างยั่งยืน

การถอดถอนพืชสมุนไพรจากบัญชีวัตถุอันตรายจะช่วยสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากพืชเหล่านี้ในหลากหลายด้าน เช่น:

  • เกษตรอินทรีย์: ใช้เป็นสารป้องกันศัตรูพืชทางธรรมชาติ
  • อุตสาหกรรมสุขภาพ/ความงาม: พัฒนาเป็นน้ำมันหอมระเหย โลชั่น หรือสบู่
  • ครัวเรือน: นำไปผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากธรรมชาติ

💼 อำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ

ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่มีส่วนผสมของสะเดา ข่า หรือ ตะไคร้หอม จะสามารถดำเนินธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดหรือภาระทางกฎหมายที่เข้มงวด


📊 ปรับปรุงรายชื่อให้ทันสมัย

การออกประกาศฉบับที่ 8 นี้ สะท้อนถึง การบริหารจัดการวัตถุอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพและทันสถานการณ์ ทั้งในแง่ของข้อมูลวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

⚠️ ความชัดเจนในการควบคุมสารเคมีอันตราย

การควบคุมสารอย่าง Hydrogen Peroxide และ Chlorine อย่างชัดเจนในบัญชี 4 จะช่วยลดความเสี่ยงต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์สุขอนามัย และน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ



👥 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบ

  • 👨‍🌾 เกษตรกร – โดยเฉพาะผู้เพาะปลูกพืชสมุนไพรที่เคยได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดเดิม
  • 🏭 ผู้ผลิต/จำหน่าย – ที่ใช้พืชสมุนไพรเป็นวัตถุดิบ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีควบคุม
  • 🌐 ผู้นำเข้า/ส่งออก – วัตถุดิบที่อยู่ในบัญชีวัตถุอันตราย
  • 👨‍👩‍👧‍👦 ผู้บริโภคทั่วไป – มีแนวโน้มได้รับผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย และมีมาตรฐานยิ่งขึ้น

📌 ข้อแนะนำ

เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและรอบด้าน ผู้ที่เกี่ยวข้องควร:

  1. ศึกษาประกาศฉบับเต็ม จากเว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา
  2. ตรวจสอบบัญชีรายชื่อวัตถุอันตรายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตน
  3. ปรับกระบวนการผลิตหรือแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับประกาศใหม่
  4. ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่ออัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง

📚 สรุปส่งท้าย

การประกาศปลดล็อกพืชสมุนไพรไทยออกจากบัญชีวัตถุอันตรายในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญของการส่งเสริม นวัตกรรมจากธรรมชาติ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และความคล่องตัวของภาคธุรกิจ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยอย่างยั่งยืนในอนาคต



ความคิดเห็น